วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556

ขั้นตอนการเขียนโครงการ


ขั้นตอนในการดำเนินโครงงานภาษาอังกฤษ ( Phases of English Project Work)
                การดำเนินโครงงานภาษาอังกฤษ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้สอนต้องสอนขั้นตอนในการดำเนินโครงงานว่าทำอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้เรียนทำเอง ถ้าผู้สอนไม่ได้สอนขั้นตอนการทำโครงงานจะทำให้ผู้เรียนท้อและไม่อยากทำโครงงาน เมื่อผู้เรียนสามารถดำเนินโครงงานเองได้ ผู้สอนต้องคอยเป็นที่ปรึกษาให้แก่ผู้เรียน ผู้เขียนได้ดำเนินโครงงานภาษาอังกฤษง่ายๆดังนี้
                1. ขั้นวิเคราะห์ปัญหา ( Identification of a problem ) ผู้เรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่าอะไร(What )เป็นปัญหาของผู้เรียน อาจเป็นปัญหาของผู้เรียนเอง หรือปัญหาของชุมชนก็ได้ การตั้งปัญหาไม่ควรกว้างเกินไป  ผู้เรียนและผู้สอนมีส่วนสำคัญในการทำให้ปัญหาแคบลง โดยการช่วยกันถามว่าอะไรคือปัญหา เมื่อได้ปัญหาแล้วจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เช่นนักเรียนของผู้เขียนอยู่ในหมู่บ้านที่ผลิตสับปะรด แต่ผลผลิตของสับปะรดต่อไร่ต่ำมาก นอกจากนี้การใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ยังเพิ่มรายจ่ายให้แก่ครอบครัวของนักเรียนด้วย  ดังนั้นปัญหาของนักเรียนคือต้องการเพิ่มผลผลิตในไร่สับปะรดจะทำอย่างไร โดยไม่ใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ (ดูตัวอย่างโครงงานที่ 1 )
                2. ขั้นตั้งจุดประสงค์ของโครงงาน ( Purpose of  project work ) ผู้เรียนจะต้องตั้งจุดประสงค์ว่าเมื่อทำโครงงานแล้วได้อะไร (What ) มีผลงานในด้านทักษะทางภาษาอังกฤษ(Language Skills ) ในขั้นสุดท้ายออกมาเป็นอะไร เช่น นักเรียนของผู้เขียนได้ทำการเพิ่มผลผลิตในไร่สับปะรด ( ดูตัวอย่างโครงงานที่ 1 ) มีจุดประสงค์คือ การเพิ่มผลผลิตในไร่สับปะรดโดยไม่ใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์  โครงงานกลอนภาษาอังกฤษนักเรียนตั้งจุดประสงค์เพื่อการเผยแพร่กลอนเป็นภาษาอังกฤษ ในหนังสือพิมพ์ (ดูตัวอย่างกลอนภาษาอังกฤษจากหนังสือพิมพ์Bangkok post ของนักเรียน)
                3. ขั้นวางแผน ( Planning ) ผู้เรียนจะต้องวางแผนว่า จะทำอะไร ทำที่ไหน และทำอย่างไร นักเรียนของผู้เขียนได้วางแผนการนำเสนอเป็นรูปแบบโปสเตอร์ (Poster )ภาษาอังกฤษ  การวางแผนการดำเนินการควรวางแผนอย่างละเอียด เช่น ถ้าไปสัมภาษณ์ภูมิปัญญาชาวบ้านเกี่ยวกับสับปะรด หรือสัมภาษณ์นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในท้องถิ่น นักเรียนต้องวางแผนว่า จะสัมภาษณ์ใคร (Who )สัมภาษณ์ที่ไหน(Where) สัมภาษณ์ทำไม (Why) เมื่อได้ผลแล้วจะเอาคำตอบไปทำอย่างไร( How)
                4. ขั้นดำเนินการ (Processes ) นักเรียนดำเนินการโครงงานภาษาอังกฤษ ตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ ตามลำดับขั้นตอน( ดูตัวอย่างโครงงานที่ 1 ในขั้นกระบวนการ(Processes))
                5. ขั้นประเมินผล (Evaluation ) การประเมินผลโครงงานภาษาอังกฤษ ควรประเมินผู้เรียนเพื่อให้เกิดทักษะทางด้านพุทธิพิสัย ( Cognitive Domain ) จิตพิสัย ( Affective Domain )และทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ(Language Skills )  การประเมินผลอาจประเมินโดยตัวนักเรียนเอง(Self-evaluation  ) ประเมินโดยเพื่อนนักเรียน(Peer-evaluation )และประเมินโดยครู(Teacher evaluation )  โครงงานของผู้เขียนผู้ปกครองนักเรียนมีส่วนในการประเมินโครงงานด้วย  ทั้งจากโปสเตอร์และการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ
หัวข้อในการดำเนินโครงงานภาษาอังกฤษ
               
 การดำเนินโครงงานภาษาอังกฤษไม่มีรูปแบบตายตัว  ครูผู้สอนอาจกำหนดหัวข้อในการดำเนินโครงงานภาษาอังกฤษง่ายๆก็ได้  ผู้เขียนขอเสนอรูปแบบหัวข้อในการดำเนินโครงงานภาษาอังกฤษดังนี้
1.       หัวข้อโครงงาน (Title )
2.       ชื่อผู้ทำโครงงาน(Author )
3.       ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน(Advisor )
4.       ที่มาของปัญหา(Statement of the problem )
5.       จุดมุ่งหมายของโครงงาน(Object )
6.       แผนดำเนินการ(Plan )
7.        วิธีดำเนินการ(Process )
8.       ผลที่คาดว่าจะได้รับ(Result )
9.       สรุป (Conclusion )
10.    เอกสารอ้างอิง (Reference )
ข้อดีของโครงงานภาษาอังกฤษ ( The advantages of doing English project work)
1.       นักเรียนได้มีโอกาสเลือกในสิ่งที่นักเรียนอยากเรียน
2.     นักเรียนได้ฝึกทักษะทั้งการฟัง(Listening ) การพูด(Speaking ) การอ่าน(Reading ) และการเขียน(Writing )ภาษาอังกฤษแบบบูรณาการ(Integration )
3.       นักเรียนได้ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น ( Collaborative )
4.       นักเรียนได้ค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเองตามความสนใจของแต่ละบุคคล (Learner-independence )
5.       นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติในสถานการณ์จริง

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

How to make a banana smoothie?


อย่าลืม วีดีโอหน้าที่
1. รายชื่อสมาชิกกลุ่ม ห้อง  และเลขที่
2. อุปกรณ์
3.รายละเอียดขั้นตอนการทำ
4. วีดีโอ การแสดงการทำโดยนักเรียนสมาชิกในกลุ่ม
5. จะจบอย่างไร อาจจะโชว์ผลงาน หรือ ทุกคนดื่มน้ำ โชว์ ยังไงก็ได้แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์
 สิ่งที่ต้องส่งครู
1. ซีดี
2. โครงงานรูปเล่ม
อุปกรณ์ในการทำ
knife  มีด
banana กล้วย
yogurt โยเกริต
blender เครื่องปั่น
milk นม

นี่คือขั้นตอนการทำ
วิธีการทำน้ำกล้วยปั่น (ให้นักเรียนดูเป็นตัวอย่าง แล้วนักเรียนไปดัดแปลงเอาเองนะ)
How to make a banana smoothie?   จะทำน้ำกล้วยปั่นอย่างไร
1. Peel three bananas. ปลอกกล้วย 3ผล
2. Cut up the bananas.หั่้นกล้วย
3. Put the bananas and yogurt into the blender. ใส่กล้วยและโยเกริตลงในเครื่องปั่น
4. Pour the milk into the blender. เทนมใส่ในเครื่องปั่น
5. Turn on the blender.เปิดเครื่องปั่น
6. Drink the smoothie.ดื่มน้ำปั่้น

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

บทเรียนที่ 1 ปลายภาค


บทเรียนใหม่ที่จะออกสอบปลายภาคนะ 
Picture 1:  My parents said I could have a party.
พ่อแม่บอกว่าอนุญาติให้ฉันจัดงานเลี้ยงได้
Picture 2:  I am going to invite twenty people and I need help getting ready for it.
ฉันจะเชิญคนประมาณ 12 คน และฉันต้องการความช่วยเหลือในการเตรียมความพร้อม (ในการจัดงาน)
Picture 3:  I am going to start the party at noon on Saturday.
งานเลี้ยงจะเริ่มในตอนเที่ยงวันเสาร์
Picture 4:  My mom is going to take me shopping for food on Friday when I have the day off school.
แม่จะพาฉันไปซื้ออาหารในวันศุกร์เมื่อฉันเลิกเรียน
Picture 5:  My friend’s band is going to play as well.
วงดนตรีของเพื่อนฉันจะมาเล่นในงานด้วย
Picture 6:  Maybe we can make it a “Celebrity”  party. Where people can dress up like their favorite famous person.   บุางทีเราจะจัดเป็นงานเลี้ยงแบบดารา ซึ่งทุกคนจะแต่งตัวตามแบบดาราที่มีชื่อเสียงที่ตัวเองชอบ
Picture 7:  Maybe we can make it a “Rocker” party since we are going to have rock music.
บางทีเราจะจัดเป็นงานเลี้ยงแบบร๊อค เราจะจัดเพลงร๊อคให้
Picture 8:  Please contact me at (415) 334-0300
กรุณาติดต่อฉันที่หมายเลข 415 334 0300

คำศัพท์
parents แปลว่า พ่อ และแม่
invite แปลว่า เชิญ
สำนวน take me shopping for food พาฉันไปซื้็้ออาหาร
Celebrity ดาราที่มีชื่อเสียง
dress up แปลว่า แต่งตัว
favorite แปลว่าชอบมาก หรือโปรด
famous แปลว่า มีชื่อเสียง
contact แปลว่า ติดต่อ